เปิดแอร์แบบประหยัด

อากาศร้อน เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

ฤดูร้อนในปี พ.ศ. 2566 มีสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 5 ครั้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากฤดูร้อนในประเทศไทยมีอากาศร้อนมาก อุณหภูมิสูงสุดของแต่ละภาคแตะระดับ 40 องศาเซลเซียส แม้แต่ภาคใต้ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าภาคอื่น ยังมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 38.8 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์ จึงเป็นสิ่งที่หลายครัวเรือนขาดไม่ได้ เมื่อต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ค่าไฟฟ้าย่อมต้องพุ่งขึ้นมากกว่าปกติเป็นธรรมดา ดังนั้นในบทความนี้ทาง Kuku Solar Air ผู้จำหน่ายแอร์โซล่าเซลล์ ขอแนะนำวิธีการ “เปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ”

8 วิธีเปิดแอร์อย่างไรให้ประหยัดไฟ

1. เลือกแอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดไฟ

โดยสังเกตจากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟยิ่งกว่าเดิมเมื่อเทียบกับแอร์ที่ไม่มีฉลากเบอร์ 5 ยิ่งดาวมากยิ่งประหยัดไฟมาก พร้อมทั้งดูแลอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ

2. เลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้อง

โดยพิจารณา​จากค่า BTU/hr (British Thermal Unit per hour) ซึ่งเป็นหน่วยสากลที่ใช้วัดขนาดความเย็นของแอร์ และมีความสำคัญ​อย่างยิ่งต่อการประหยัดพลังงาน คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อแอร์ขนาดใหญ่เพื่อให้ห้องเย็นเร็วขึ้นซึ่งเป็นการตัดสินใจไม่ถูกต้อง เพราะการใช้แอร์ที่มี BTU สูงเกินความจำเป็นกับขนาดห้องจะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ลดน้อยลง และทำให้ภายในห้องมีความชื้นสูงส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกไม่สบายตัว รวมถึงมีราคาแพงเกินความจำเป็น​ แต่หาก​เลือก​แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไป การทำความเย็นจะช้า ไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ รวมถึงคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักจนเกินไป ทำให้แอร์เสียเร็ว สิ้นเปลืองพลังงาน และค่าไฟแพงขึ้น

3. เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์และคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสม

โดยหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์ในทิศตะวันตก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะโดนแสงแดดส่องในช่วงบ่ายทำให้ความร้อนสูง แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งคอมเพรสเซอร์ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นพื้นปูน ดาดฟ้า มุมอับที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท หรือได้รับแสงแดดโดยตรง เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นอุปกรณ์​ระบายความร้อนจึงควรอยู่ในที่ร่ม และยกสูงเหนือพื้น​ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้นและประหยัดพลังงาน

4. เปิดแอร์ 26-27 องศา พร้อมเปิดพัดลม

การเปิดพัดลมช่วยไล่ความร้อนภายในห้องก่อนเปิดแอร์ โดยเพิ่มอุณหภูมิแอร์ไปที่ 26-27 องศาเซลเซียส จะช่วยลดอุณหภูมิลงได้ 2 องศา แต่ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัดค่าไฟได้ถึง 10%

5. ล้างแอร์ทุก 6 เดือน

เมื่อแอร์​ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แม้เปิดในอุณหภูมิที่ต่ำแล้ว แต่ผู้ใช้งานยังไม่รู้สึกเย็น เพราะภายในแอร์​มีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น การล้างแอร์ทุก 6 เดือน จึงทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปล่อยลมเย็นได้เหมือนเดิม ประหยัดค่าไฟได้มากถึง 10%

6. หลีกเลี่ยงนำของร้อนหรือของชื้นเข้าห้อง  

อุปกรณ์หรือเครื่องครัวต่าง ๆ ที่ทำความร้อน เช่น กระทะไฟฟ้า หม้อต้มสุกี้ ไม่ควรนำมาประกอบอาหารในห้องแอร์ เพราะความร้อนในห้องนั้น ๆ จะสูงขึ้นและทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น รวมถึงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนอย่าง เตารีด กาน้ำร้อน และของชื้นอย่างผ้าเปียก

7. ปิดห้องให้สนิท เมื่อเปิดแอร์

ก่อนเปิดแอร์ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าประตู หน้าต่างปิดสนิทครบทุกบาน รวมถึงปิดม่านไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในห้องได้ เพราะหากความร้อนจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาภายในห้อง และยังต้องรักษาอุณหภูมิในห้องให้คงความเย็นไว้ได้ตลอดแล้ว นั่นจะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น

8. เลือกใช้แอร์โซลาร์เซลล์

แอร์โซล่าเซลล์จะใช้กำลังไฟหลักจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน แต่ถ้ามีแสงน้อยหรือเป็นช่วงกลางคืน จะมีการดึงไฟฟ้าจากระบบเข้ามาเสริมในส่วนที่ขาดหาย การทำงานของเครื่องจึงราบเรียบและมีความปลอดภัย และจะช่วยประหยัดไฟได้ถึงอย่างมาก หรือจะเลือกติดโซล่าเซลล์บนหลังคาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Shopping Cart
Scroll to Top